พึ่งเริ่มเรียนเปียโน ควรเลือกเปียโนแบบไหน?
อย่างที่คุณครูบอกไปในบทความก่อนหน้านี้ว่า การเรียนเปียโนที่ดีนั้นต้องหมั่นฝึกซ้อม ถึงจะทำให้การเรียนเปียโนนั้นประสบความสำเร็จ การมีเปียโนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเรียนเปียโนจะเป็นการดีกว่า ซึ่งจากที่ทางโรงเรียนดนตรียามาฮ่าประเทศญี่ปุ่นได้วิจัยและเก็บข้อมูลของนักเรียนที่เรียนกับโรงเรียนดนตรียามาฮ่า กว่า 90% ของนักเรียนที่เรียนเปียโนต่อเนื่องตั้งแต่ยังเด็กนั้นจะมีเปียโนอย่างน้อย 1 หลังอยู่ที่บ้าน
เพราะอะไรกันหล่ะนักเรียนเหล่านี้ถึงยังคงเรียนเปียโนอยู่
การมีเปียโนที่บ้านนั้น ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนเปียโนตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้น้องๆมีเปียโนไว้เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ที่อยากจะเล่น สร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆในการขยันฝึกซ้อม ทำให้การเรียนเปียโนนั้นก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
“การซ้อมกับเปียโนที่มีคุณภาพเป็นทางลัดที่ดีที่สุดสำหรับการจะเป็นนักเปียโนมืออาชีพ”
ทำไมกันหล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีประเภทใดก็ตาม การใช้เครื่องดนตรีที่มีคุณภาพสูง จะช่วยพัฒนาทักษะการเล่น ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เปียโนรุ่นที่ราคาต่ำจะให้การควบคุมคีย์ของเปียโนดีในระดับหนึ่ง ซึ่งจะเหมาะกับการฝึกซ้อมเพลงที่มีความยากระดับต้นๆ เพราะไม่จำเป็นต้องควบคุม Dynamic ของเพลงมากมายอะไร แต่เมื่อน้องๆต้องฝึกเล่นเพลงที่มีการควบคุมการเล่นที่ลื่นไหลไปตามอารมณ์เพลง เบาบ้าง ดังบ้าง หรือ เกือบจะไม่ดังเลยตามจังหวะของตัวโน้ต น้องๆจะเกิดปัญหาที่เปียโนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน หรือ ได้ไม่ตรงกับความต้องการที่จะเล่นของน้องๆในเพลงๆนั้น ซึ่งมักจะเป็นเพลงในบทเรียนที่อยู่ในบทเรียนระดับกลางขึ้นไป เปียโนหลังนี้จึงกลายมาเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาทักษะการเล่นของน้องๆไปโดยปริยาย
เปียโนนั้น หลักๆแล้วเราจะแบ่งเป็น 2 ประเภท 1. Digital Piano และ 2. Acoustic Piano แน่นอนค่ะว่า คุณครูแนะนำให้ใช้เปียโน Acoustic เพื่อการใช้ฝึกซ้อมในระยะยาว แต่ถ้าน้องๆพักอาศัยอยู่ในที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนี่ยม การใช้ Digital เปียโนก็จะเหมาะสมกว่า แต่สุดท้ายแล้วเปียโน Digital ก็จะมาเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาทักษะของน้องๆอีกภายหลัง ฉะนั้นการเลือกซื้อเปียโนต้องดูหลายปัจจัย แน่นอนว่าเปียโนไม่ว่าแบบไหนนั้นย่อมมีราคาที่สูง การใช้เปียโน Digital ราคาถูก ก็จะมีผลเสียตามมาในภายหลังอีก
“กลัวซื้อมาแล้ว คุณพ่อคุณแม่กลัวว่าน้องๆจะหมดความสนใจ กลัวเอามาเป็นราวตากผ้า จะเสียดายเงินภายหลัง เป็นข้อกังวลยอดฮิตจากคุณพ่อคุณแม่กันเลยทีเดียว คำตอบของคำถามนี้ คุณครูแนะนำให้เลือกใช้เปียโน Digital เพื่อฝึกซ้อมไปพลางๆ”
เปียโน Digital หรือ เปียโนไฟฟ้า ของยามาฮ่านั้นมีหลายรุ่นให้เลือก ตั้งแต่ YDP145, YDP165, CLP725, CLP735 และรุ่นอื่นๆอีกมากมาย ไล่ระดับจากราคาถูกไปราคาแพง ตั้งแต่ราคา 40,000 บาทไปจนเกิน 200,000 บาท แล้วคุณครูแนะนำรุ่นไหนกันหล่ะ? ถ้ามองถึงผลดีในการเรียนเปียโนของน้องๆ คุณครูจะแนะนำรุ่นแพงที่สุดค่ะ เพราะจะได้เปียโน Digital ที่ให้การตอบสนองสมจริงใกล้เคียงเปียโนจริง แต่ถ้าพิจารณาจากงบประมาณและข้อกังวลของคุณพ่อคุณแม่ คุณครูจะแนะนำรุ่นที่มีสิ่งพื้นฐานที่เพียงพอ ให้ความสมจริงใกล้เคียงเปียโนจริง และคุ้มค่ามากที่สุด ก็จะเป็นรุ่น CLP725 ราคาปกติที่ 54,000 บาท ส่วนรุ่น YDP-145 คุณครูไม่แนะนำนะคะ เพราะซื้อไปเล่นได้ไม่เท่าไหร่ น่าจะไม่ถึงปี ก็ต้องเปลี่ยนรุ่นตามทักษะของน้องที่เพิ่มขึ้น
เปียโน Acoustic จะมี 2 แบบให้เลือก คือ Upright และ Grand การเลือกใช้เปียโน Acoustic นั้นพูดได้ว่ามองการไกลและคุ้มค่ามากกว่า เพราะไม่ต้องมาซื้อเปียโนรอบ 2 หลังจากที่ซื้อเปียโน Digital ไปแล้ว อีกทั้งยังสามารถใช้เล่นเพลงได้ทุกแนว ควบคุมคีย์ได้ดั่งใจ และให้เสียงที่ไพเราะและกังวาน
แต่เมื่อไหร่กันหล่ะเราควรจะเลือกใช้เปียโน Acoustic หรือเปลี่ยนจากเปียโน Digital มาเป็น Acoustic เปียโน?
คำตอบ คือ เมื่อต้องเริ่มเรียนบทเรียนที่มีเพลงต้องการ Expression และ Dynamics การเล่นเพลงแบบนี้บนเปียโน Digital นั้นทำได้ยากอย่างมาก หรือไม่สามารถควบคุมคีย์ไปตามบทเพลงได้เลย เพราะเสียงของเปียโน Acoustic นั้นมากจากกลไกควบคุมที่ซับซ้อน ผ่านออกมาเป็นเสียง ตอบสนองตามการเล่นของผู้เล่น ไม่ว่าจะกดคีย์แรง หรือ เบา ก็ให้เสียงออกมาตามนั้น แต่กับเปียโน Digital เอง เสียงจะถูกควบคุมผ่านจาก Sensor อิเล็คทรอนิกส์ ที่มีการเปิด กับ ปิด ถ้ารุ่นที่สูงหน่อยก็จะมี Sensor หลายตำแหน่งใน 1 คีย์ แต่ก็ไม่อาจให้ความรู้สึกถึงความต่อเนื่องของเสียงเหมือนเปียโน Acoustic ได้ อธิบายเปรียบเทียบได้ตามภาพด้านล่าง
เปียโน Acoustic แบบ Upright ทางยามาฮ่ามีรุ่นเริ่มต้นตั้งแต่ JU109 ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆตามระดับราคา U1, U3 และ YUS5 การเลือกซื้อเราตวรพิจารณาปัจจัยประกอบหลายๆด้าน เช่น ขนาดของเปียโน ความนิยมของรุ่น ราคาขายต่อ และส่วนประกอบภายใน
เปียโน Yamaha JU109 เปียโน Upright รุ่นเล็กสุดของยามาฮ่า มาพร้อมความสูง 109 ซม. แต่เดี๋ยวก่อน ความสูงเปียโนมาตรฐานที่เป็นที่นิยม คือ 120 ซม. ขึ้นไป ถ้าเลือกรุ่นนี้และไม่นับเรื่องพลังเสียงที่ต่างจากรุ่นที่สูงกว่า ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับใช้ซ้อมที่บ้านแล้ว แต่ต้องทำใจเรื่องการขายต่ออาจจะไม่ได้ราคาสูงเหมือนกับ U Series ขึ้นไป
เปียโน Yamaha U Series ได้แก่ รุ่น U1J, U1 และ U3 โดยทุกรุ่นเป็นเปียโนขนาดมาตรฐานความสูงเกิน 120 ซม. ให้พลังเสียงที่มีพลังกังวาน และให้ Touching ที่ควบคุมได้ดีกว่า JU Series รุ่นที่คุณครูส่วนมากจะมีไว้ที่บ้านตอนเรียนเปียโนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย คือ รุ่น U3 เรียกได้ว่า ครบจบ และเพียงพอแล้วสำหรับการเรียนเปียโนของนักเรียนทั่วไป
สุดท้ายกับ Grand Piano เมื่อไหร่กันหล่ะ ที่ควรจะมีมัน อาจไม่ใช่ทุกคนที่ต้องใช้ Grand Piano เพราะจริงๆแล้วเปียโน Upright นั้นเพียงพอกับการเรียนเปียโนอยู่แล้ว แต่จะมีน้องๆบางคนที่แค่เปียโน Upright นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป นั้นก็คือ น้องๆ ที่มุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมการแข่งขันประเภทต่างๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกซ้อมกับ Grand Piano เท่านั้น เพราะในการแข่งขันจริง น้องๆจะต้องใช้ Grand Piano ในการทำการแสดง การทำความคุ้นเคยและฝึกซ้อมกับ Grand Piano มานั้นจะเป็นข้อได้เปรียบ เพราะจะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยที่ Grand Piano แตกต่างจากจากเปียโน Upright ซึ่งจะต้องใช้เทคนิคพิเศษในการควบคุมและเล่น ตรงจุดนี้เองที่กรรมการนำมาเป็นจุดให้คะแนน
Internal Link พึ่งเริ่มเรียนเปียโน ควรเลือกเปียโนแบบไหน?